รวม 10 เคล็ดลับการดูแลรถในหน้าฝนให้พร้อมใช้งานเสมอ
ทำไมการดูแลรถในหน้าฝนถึงสำคัญ
เพราะการดูแลรถในหน้าฝน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติไปได้มาก โดยเฉพาะในเรื่องของระบบเบรก และลมยางในการใช้งาน หรืออาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่เล็กสักเท่าไหร่ อย่างแบตเตอรี่หมด ที่ปัดน้ำฝนใช้การไม่ได้ และหนักขึ้นมาหน่อย อาจจะเป็นรอยรั่วซึมที่ขอบยางประตูจนทำให้น้ำเข้ามาในรถ สิ่งเหล่านี้ล้วนป้องกันได้ด้วยการดูแลรถในหน้าฝนอย่างถูกวิธี
10 วิธีดูแลรถหน้าฝนให้พร้อมใช้งาน
เมื่อพูดถึงการดูแลรถช่วงหน้าฝน หลายคนไม่รู้ว่าจะต้องเช็กจุดไหนบ้าง วันนี้เรามี 10 วิธีในการตรวจเช็กเบื้องต้น เพื่อการใช้งานรถในช่วงหน้าฝนให้ปลอดภัยมาฝากกัน
1. ตรวจระบบเบรก
ฝนตก = ถนนลื่น! เช็กน้ำมันเบรก ระยะเบรก และอาการเบรกจม หากรู้สึกเบรกตอบสนองช้า รีบเข้าศูนย์ทันที
2. เช็กลมยางและดอกยาง
แรงดันลมยางที่เหมาะสมช่วยให้ยึดเกาะถนนดีขึ้น และลดอาการลื่นไถล ตรวจสภาพยางเสมอ เปลี่ยนตามระยะ
3. ทดสอบใบปัดน้ำฝน
ใบปัดน้ำฝนคือด่านแรกของความปลอดภัย หากปัดไม่สะอาดหรือมีเสียงดัง ควรเปลี่ยนทันที
4. ตรวจหัวฉีดน้ำกระจก
น้ำฝน + เศษดิน = กระจกเลอะ! ตรวจระบบฉีดน้ำให้ใช้งานได้ปกติ เติมน้ำยาให้พร้อมทุกครั้ง
5. เช็กแบตเตอรี่
แบตเสื่อม = สตาร์ทไม่ติดตอนฝนตก ไม่สนุกแน่! ฟังเสียงสตาร์ท หากเริ่มลากยาวควรเช็กหรือลองเปลี่ยนก่อนดับกลางทาง
6. เช็กไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว
ฝนตกหนัก ทัศนวิสัยแย่ ถ้าไฟรถไม่พร้อมคือเสี่ยงสูง! ตรวจเช็กทุกจุดก่อนออกจากบ้านเสมอ
7. ทำความสะอาดห้องโดยสาร
รองเท้าเปียก = ห้องโดยสารอับชื้น เช็ดแห้งบ่อย ๆ และดูดฝุ่นเสมอ เพื่อลดเชื้อราและกลิ่นอับ
8. ตรวจยางขอบประตู
กันน้ำเข้า = กันปัญหาใหญ่ ตรวจรอยรั่วด้วยการฉีดน้ำ หากมีน้ำซึมควรเปลี่ยนยางขอบทันที
9. ล้างแอร์รถ
ฝน = อากาศอับ ล้างแอร์ช่วยกำจัดฝุ่น เชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์ แนะนำล้างอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
10. ล้างรถทุกครั้งหลังโดนฝน
น้ำฝนมีกรดและคราบสกปรก หากปล่อยไว้จะทำลายสีรถ ใช้น้ำสะอาดฉีดล้างและเช็ดให้แห้งทันที
สนใจซื้อประกันภัยการเดินทางไปกับ Askpauls ได้ที่ ซื้อประกันภัยรถยนต์